|[รีวิว]พาไปชิม NAKIRYU ราเมนระดับมิชลิน และบทสรุปที่คาดไม่ถึง

[รีวิว]พาไปชิม NAKIRYU ราเมนระดับมิชลิน และบทสรุปที่คาดไม่ถึง

โตเกียวนั้นถือเป็น”เมือง”ที่มีจำนวนร้านอาหารที่ได้รับ”ดาว”จาก Michelin Guide มากที่สุดในโลกติดต่อกันมานานหลายปีแล้ว ทางเว็บไซต์ของ Michelin Guide ได้ประกาศมาว่าปี 2017 นั้นมีร้านที่ได้ “ดาว” รวมกันถึง 221 ร้านเลยทีเดียว โดยแบ่งเป็น

  • 3 ดาว 12 ร้าน
  • 2 ดาว 53 ร้าน
  • 1 ดาว 156 ร้าน

แต่จากทั้งหมดนี้ มีร้าน”ราเมน”เพียงสองร้านเท่านั้นเองครับ ที่ได้ 1 ดาวจาก Michelin Guide นั่นคือร้าน Tsuta และ Nakiryu ที่เราจะมาพามาชิมในวันนี้

หน้าร้าน Nakiryu

ข้อมูลเบื้องต้นของ Nakiryu

  • อาหารที่ขาย คือ ราเมนแบ่งเป็นซุป 3 รสชาติ ตันตันเมน(งาและพริก), โชหยุราเมน(ซุปซอสโชหยุ) และ ชิโอะราเมน(ซุปเกลือ)
  • ราคา ต่อหัว 1,000-1,500 เยน จ่ายเงินด้วยวิธีการหยอดตู้ภาษาญี่ปุ่นล้วนแต่ไม่ต้องกังวลเพราะจะมีคนยื่นเมนูภาษาอังกฤษให้ ช่วยเราแลกเงินและช่วยเราหยอด
  • บรรยากาศภายในร้าน นั่งทานแบบเคาเตอร์บาร์ มีประมาณ 10 ที่นั่ง สบายๆไม่ถึงกับหรูหรา
  • คุณจะใช้เวลากับร้านนี้รวมต่อคิวราวๆ 1.5-3ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนคิว(10คนแรกที่มาต่อคิวหน้าร้าน น่าจะมารอก่อนร้านเปิด 1 ชั่วโมงขึ้นไป) เวลาที่คุณอยู่ในร้านเริ่มสั่งอาหารจนถึงกินเสร็จรวมถ่ายรูปแบบนักท่องเที่ยว น่าจะไม่เกิน 30นาที ดังนั้นอย่าลืมเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนมาต่อคิว
  • เดินทางมาที่ร้านโดยนั่งรถไฟสาย Yamanote line ลงสถานี Otsuka แล้วออกจากสถานีทางออก 1 ทิศใต้แล้วเดินอีก 450 เมตร พิกัดของร้านจะอยู่ที่ 35.7286762,139.7303427

เมนูภาษาอังกฤษคลิกดูรูปใหญ่ได้ครับ จะได้คิดไว้เพลินๆระหว่างรอคิวว่าจะสั่งอะไรบ้าง

.

Nakiryu ก็เหมือนกับร้านอาหารยอดนิยมทั่วไปในญี่ปุ่น คุณต้องมีความมุ่งมั่นอดทนในการยืนรอคิวอย่างยาวนาน Nakiryu เปิดร้าน 11:30  ผมมาถึงตอน 11:20 และพบว่าตัวเองเป็นคิวที่ 32 ผมเดาว่าคนแรกๆน่าจะมาถึงตั้งแต่ก่อน 10 โมงครึ่ง ดังนั้นอย่างน้อยที่สุดคุณน่าจะต้องใช้เวลาที่ร้านนี้เกิน 1 ชั่วโมงครึ่งขึ้นไป วันที่ผมไปถึงนั้นอากาศเย็นสบายราวกับอยู่ในตู้เย็นที่ 4-5 องศา และลมค่อนข้างแรงก็ถือว่าเป็นการยืนรอคิวที่ทรหดที่สุดครั้งนึงเหมือนกัน ผมใช้เวลารอคิวทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ถ้าคุณอยากจะลองกะเวลาที่ต้องรอคิว ผมคิดง่ายๆว่าในจำนวนลูกค้า ทุกๆ 10 คน คุณจะต้องรอ 30 นาทีครับ เพราะโดยเฉลี่ยลูกค้าตั้งแต่เข้าร้านสั่งอาหารกินเสร็จออกจากร้านประมาณไม่เกิน 30 นาที

เมื่อได้เข้ามาในร้านจะมีเชฟผู้ช่วยที่ดูลักษณะแล้วน่าจะเป็นหุ้นส่วนร้าน เข้ามาแนะนำบริการเราซึ่งเขาอาจจะไม่ได้ยิ้มแย้มแจ่มใสเฟรนลี่มากนัก แต่ก็มีความเป็นมืออาชีพ เขาจะยื่นเมนูภาษาอังกฤษให้เราและถามว่าต้องการแลกเงินที่จะใช้หยอดตู้หรือไม่ นอกจากนั้นยังช่วยเรากดตู้สั่งอาหาร และพาเราไปที่โต๊ะ ภายในร้านไม่กว้างขวางเท่าไหร่ มีที่ให้แขวนเสื้อคลุมอยู่ด้านหลังที่นั่ง ถือเป็นบริการที่หาได้ยากในราเมนทั่วไปในญี่ปุ่นที่มักจะปล่อยคุณยืนเงอะงะหน้าตู้สั่งอาหาร แต่ที่นี่เขาเพียงแค่ต้องการให้คุณ”เร็ว” เพราะมีลูกค้ารออีกเยอะ

แน่นอนว่าก่อนจะมาที่นี่ผมก็มีทำการบ้านศึกษามานิดหน่อยว่า เมนูขึ้นชื่อของที่นี่คืออะไร เมนูแรกคือ ตันตันเมน บางคนงงว่ามันคืออะไรเพราะที่บ้านเราราเมนชื่อดังยอดนิยมมักจะเป็น ซุปทงคตสึ ที่มีสีขาวขุ่นรสชาติมันๆครีมมี่อูมามิ ส่วนตันตันเมนในบ้านเราที่หากินง่ายๆหน่อยก็จะอยู่ในร้านฮะจิบังราเมนไง มันคือราเมนตัวที่ราดหมูสับรสเผ็ดนั่นแหล่ะครับ ส่วนอีกเมนูนึงที่ได้รับการแนะนำสำหรับร้าน Nakiryu ก็คือ โชหยุราเมน ส่วนชิโอะราเมน หรือซุปเกลือรอบนี้ผมยังไม่ได้ลอง ถ้าใครได้ลองแล้วช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับว่าเป็นไงบ้าง จะได้ไม่ต้องไปกินเอง 5555555

ตันตันเมน 800 เยน

มาแล้ว ชามนี้ของคนอื่น แต่ผมลองชิมดูเล็กน้อย เท่าที่สัมผัสได้คือมี “หวาน-มัน-เผ็ด-หอม” ความหวานนี่ไม่เหมือนหวานน้ำต้มกระดูกหรืออูมามิแบบนั้นครับ เป็นหวานเครื่องปรุงบางอย่าง คล้ายน้ำตาลแต่รสซับซ้อนกว่า ความมันความหอมและเผ็ดได้มาจาก งา ถั่ว และพริกแบบพิเศษ ที่มีกลิ่นเฉพาะ เมื่อรวมกับเส้นที่เหนียวนุ่มมีความหนึบเล็กๆแล้วทุกอย่างก็ลงตัวดีครับ เป็นเมนูที่จัดออกมาแล้วสวยมากๆ สีสันสวยงามดูมีพลังมีออร่า ถ่ายรูปขึ้น โพสลงโซเชี่ยลแล้วดูน่าตื่นเต้นมาก แต่โดย”ส่วนตัว”ไม่ชอบ ด้วยความไม่แน่ใจเลยถามเจ้าของชามนี้ว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง ซึ่งเขาตอบกลับมาสั้นๆว่า “นี่เหรอ(ที่กูยืนรอมาตั้งนาน)”

โชหยุราเมน 950 เยน

ชามนี้ของผมครับ แม้ว่าโดยส่วนตัวผมไม่ได้มีโอกาสกินโชหยุราเมนบ่อยนัก ซึ่งอาจจะทำให้มีตัวเปรียบเทียบน้อยไปซักหน่อย แต่ผมสามารถบอกได้เลยว่า นี่คือหนึ่งในโชหยุราเมนที่ดีที่สุดที่เคยกินมา เส้นนุ่มหนึบ น้ำซุปเค็มพอเหมาะและหอมจากโชหยุที่คัดมาอย่างดี หมูชาชูที่ตุ๋นด้วยเครื่องปรุงและสมุนไพรฝรั่งหลายๆอย่างที่อุณหภูมิต่ำเป็นเวลานานมากๆเหมือน Sousvide มา ทำให้ได้หมูชาชูที่นุ่มแต่ไม่เปื่อยยุ่ยมีรสชาติและกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนใคร ไข่ยางมะตูมทำได้สมบูรณ์แบบไข่ขาวสุกแข็งไข่แดงเยิ้มแช่ซอสหมักสีกำลังสวย หน่อไม้ที่ใช้ก็รสชาติดี เมื่อนำสาหร่ายที่ให้ใส่ลงในน้ำซุปยิ่งทำให้ความหอมของน้ำซุปทวีคูณ ผมกินชามนี้หมดอย่างรวดเร็วและไม่นึกสงสัยอีกว่า ดาว Michelin นั่นได้มาเพราะอะไร

อันที่จริงชามแรกที่เป็นตันตันเมนนั้นผมก็คิดว่า เชฟมีความใส่ใจในการทำส่วนประกอบต่างๆสูงมาก อาหารที่หน้าตาสวยงามและมีรสชาติระดับนี้มักจะผ่านการทดสอบทดลองสูตรมานับครั้งไม่ถ้วน เพียงแต่รสชาติมันไม่ถูกจริตผมก็เท่านั้นเอง เป็นเรื่องของรสนิยมล้วนๆ ผมไม่ชอบแต่ไม่ได้แปลว่ามันไม่ดีไม่อร่อย คุณอาจจะชอบก็ได้

หมูชาชู สั่งเพิ่ม 250 เยน

บทสรุป

สำหรับผม Nakiryu เป็นร้านราเมน Michelin 1 ดาว ได้ด้วยความทุ่มเทจริงๆ เค้าทำสิ่งต่างๆได้ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ มีครีเอทีฟ มีความตั้งใจที่จะเสนอแนวทางใหม่ๆ แต่ถ้าถามผมว่าจะกลับไปซ้ำอีกมั๊ย ผมคงต้องพูดจากใจว่าไม่ เพราะในโตเกียวมันมีร้านอาหารที่น่าสนใจอยู่มากเหลือเกิน และเพราะความเป็น Michelin 1 ดาว ทำให้ร้านนี้คิวยาวมากๆคุณจะเสียเวลานานมากๆ หากคุณมีเวลาผมก็อยากให้คุณลองแล้วมาเล่าให้ฟังกันบ้าง แต่ถ้าไม่โตเกียวยังมีร้านอาหารอร่อยรออยู่ทุกที่ที่คุณผ่านไป ซึ่งคุณสามารถหาร้านอร่อยรอบตัวได้ง่ายๆ ผ่านเว็บ Tabelog ซึ่งผมจะได้แนะนำให้รู้จัก ในโอกาสต่อไปครับ ^_^

2017-09-30T11:24:30+07:00September 8th, 2017|Categories: Eat|Tags: , , , , , , , , , , |