|เลิกตามรอยรีวิวคนอื่น หันมาสร้างรอยรีวิวของตัวเอง กับ 2 เว็บ ที่จะช่วยให้คุณตะลุยกินญี่ปุ่น อย่างกะเจ้าถิ่น

เลิกตามรอยรีวิวคนอื่น หันมาสร้างรอยรีวิวของตัวเอง กับ 2 เว็บ ที่จะช่วยให้คุณตะลุยกินญี่ปุ่น อย่างกะเจ้าถิ่น

เชื่อว่าหลายคน ก่อนจะไปญี่ปุ่น น่าจะต้องมีการทำการบ้านอ่านรีวิว เป็นร้อยกระทู้แน่ๆ โดยเฉพาะเรื่องของกิน ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องของกินอร่อย หน้าตาดี ไปทั้งทีต้องมี คอนเทนต์ มาอวดเพื่อน !! แต่บางครั้งเราเตรียมรีวิวไปเยอะมากและก็ต้องตัดทิ้งไปเกือบทั้งหมดเพราะว่าแผนการไม่เป็นใจบ้าง หลงทางบ้าง วันนี้ผมจะมาแนะนำ สองเว็บที่จะช่วยให้คุณอร่อยแบบ เจ้าถิ่นตัวจริง ชนิดที่ว่าหลงที่ไหนอร่อยที่นั่น!! ไม่ต้องดั้นด้นตามรอยรีวิวของใครให้เมื่อยทรีนอีกแล้ว สร้างรอยรีวิวของตัวเองแล้วให้คนอื่นมาตามมั่งเก๋ๆ 555

มีหลายคนครับไปญี่ปุ่น ยังเปิด”วงใน”อยู่เลยอ่ะ จริงอยู่นะมันใช้ได้เลยล่ะ แต่หลายๆครั้งผมพบว่าการตามรอยรีวิว “วงใน” มันทำให้เหมือนเรากินอาหารญี่ปุ่นอยู่ในกรุงเทพ เพราะวงในส่วนใหญ่คนเล่นเป็นคนกรุงเทพซึ่งถ้าคุณต้องการกินแบบปลอดภัย “วงใน” ก็อาจจะใช่สำหรับคุณ แต่ถ้าคุณต้องการรสชาติแบบที่ คนท้องถิ่นหรือแบบที่สากลคนทั่วโลกชื่นชอบล่ะ “วงใน”อาจจะไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป แล้วเราจะมองหาจากไหนล่ะ

Tabelog ชื่อเว็บตามภาษาญี่ปุ่น อาจจะมีความหมายประมาณว่า บันทึกการกิน อะไรประมาณนั้น แต่ที่จริงแล้วนี่เปรียบเสมือนเว็บ”วงใน”ของคนญี่ปุ่นนั่นเอง

ตัวเว็บใช้งานไม่ยาก ถ้าคุณต้องการทำการบ้านล่วงหน้า ก็สามารถค้นหาจาก จังหวัดที่จะไป ประเภทอาหารที่สนใจ หรือถ้าคุณจะหาร้านอร่อย ตอนหลงทาง ก็กดค้นหาร้านใกล้ตัวได้เลย โดยระดับการให้คะแนนของ Tabelog จะมีทั้งหมด 5 คะแนน เรามาดูกันดีกว่าว่า ระดับคะแนนแต่ละระดับคืออะไร (ความคิดเห็นส่วนบุคคลนะจ้ะ)

แนะนำวิธีใช้ Tabelog เบื้องต้น

เมื่อเปิดเว็บ https://tabelog.com/en ด้วย Browser จากมือถือจะเป็น Chrome หรือ Safari ก็ตาม จะเข้าสู่หน้าแรก ซึ่งจะแบ่งการแสดงผลเป็น 2 รูปแบบคือ แบบ List ซึ่งจะเป็นรายชื่อร้านอาหารเรียงลงมาและแบบ Map ซึ่งจะแสดงพิกัดของร้านอาหารบนแผนที่ ซึ่งถ้ากดปุ่มลูกศรสีน้ำเงิน ก็จะแสดงตำแหน่งปัจจุบันของเราโดยใช้ GPS ครับ ซึ่งเจ้าปุ่มนี้แหล่ะที่จะมีประโยชน์มากๆเวลาที่หิวและไม่อยากเดินไกลๆ เราสามารถดูได้เลยว่ารอบๆตัวเรามีร้านอะไรที่น่าสนใจบ้าง กดไล่ๆดูไปถูกใจรูปภาพร้านไหน คะแนนโดนใจก็ลองไปเลย รอทำไมละหิวแว้ววว

ค้นหาประเภทอาหาร

ต่อมา ลองกดปุ่มสีเขียว เพื่อกำหนดเงื่อนไขต่างๆ จะเห็นว่ามีตั้งแต่ Location(ชื่อเมืองหรือย่าน), Categories(ประเภทอาหาร), Budget(งบประมาณต่อมื้อ) และ Seats for tonight(มีที่นั่งว่างหรือเปล่า) เมื่อลองกดเข้าไปดู Categories หลายคนอาจจะหา Sushi และอาหารญี่ปุ่นหลายๆอย่างไม่เจอ ทั้งหมดนั้นจะอยู่ในเมนูย่อย ชื่อ Washoku(Japanese food) อีกทีครับ ลองกดเข้าไปดูก็จะเห็นว่ายังมีอาหารญี่ปุ่นอีกหลายชนิดเลย

ส่องเมนูของแต่ละร้านว่าน่าอร่อยแค่ไหน

ถ้ากดดูรายละเอียดในแต่ละร้าน ส่วนมากเราก็ดูแค่หน้า Photo gallery ครับเพราะ Review ก็คงอ่านไม่ออก 555 แม้ว่าจะให้ google แปลได้ก็อ่านไม่เข้าใจอยู่ดี ซึ่งในส่วนของ Photo gallery เนี่ยมันจะมีรูปอยู่หลายหมวดหมู่ครับ ส่วนมากผมจะดูแค่ food เพื่อดูภาพอาหารว่าน่ากินแค่ไหนแล้วก็เซฟเอาไว้สั่งกับพนักงานได้เพื่อพูดไม่รู้เรื่อง  แล้วอีกอันที่สำคัญคือ Appearance ซึ่งจะเป็นรูปหน้าร้าน ถ้าเราดูแค่แผนที่ก็ยากที่จะหาร้านเจอครับเพราะส่วนมากร้านดังจะเล็กๆเรียบๆหายากๆหน่อย อีกอันที่อาจจะมีประโยชน์คือ Others ซึ่งบางทีจะมีรูปเมนูที่คนอื่นถ่ายเอาไว้ครับ เราจะได้เห็นคร่าวๆว่า ราคาเป็นประมาณไหน และส่วนสุดท้ายคือ แผนที่ร้านครับ

Tabelog นั้นเป็นเว็บที่คนญี่ปุ่นใช้กันเองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีข้อสังเกตคือหลายครั้งอาหารอาจจะไม่ได้ถูกปากคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเหมือนคนญี่ปุ่น และยังมีร้านบางลักษณะที่ถึงแม้จะอยากกินแค่ไหนก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดินเข้าไปกินเอง เนื่องจากร้านเหล่านี้บางครั้งต้องการคนญี่ปุ่นจองให้ บางครั้งต้องการคนญี่ปุ่นที่เป็นสมาชิกของร้านหรือเป็นลูกค้าเก่าจองให้นานเป็นหลายๆเดือน(เช่น ซูชิ Saito) อีกทั้งเมื่อเข้าไปแล้วก็ยังมีอุปสรรค์ด้านภาษาอีก หากท่านใดมีตัวช่วยเป็นเพื่อนชาวญี่ปุ่นก็ลองดูได้แล้วอย่าลืมมาเล่าให้ฟังกันบ้างล่ะ

หาก Wongnai คือตัวแทนเว็บรีวิวอาหารจากไทย Tabelog ก็คือตัวแทนจากญี่ปุ่น ส่วน Yelp ก็น่าจะเป็นตัวแทนของมวลมนุษย์ชาติอะไรแบบนั้น นี่คือเว็บที่มีผู้ใช้จากทั่วโลก หากคุณพบว่า Tabelog นั้นมักจะมีความเห็นไม่ตรงกับคุณแล้วละก็ ลองดู Yelp อาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่า

แต่แม้ว่า Yelp นั้นจะมีแบบ App ด้วย แต่ก็จะลงได้เฉพาะระบบ iOS และก็ดูเหมือนจะยังมีปัญหาในการใช้งานภายในประเทศไทยอยู่ เนื่องจาก Yelp ยังไม่ได้รองรับภาษาไทยอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่ได้รับความนิยมในหมู่คนไทยเท่าไหร่นัก เพราะฉะนั้นเพื่อให้ทั้ง iOS และ Android เห็นเหมือนๆกัน ผมจึงแนะนำให้เปิด Yelp ด้วย Safari หรือ Chrome บนโทรศัพท์แทนจะดีกว่าครับ

วิธีใช้ Yelp เบื้องต้น

หน้าแรกของ Yelp เราจะกดแค่อย่างเดียวคือ รูปแว่นขยาย(ขวาบนที่อยู่ติดกับ เมนู 3 ขีด) พอกดแล้วจะเห็น

  1. ช่องกรอกข้อมูลแนวอาหารที่ต้องการ เช่น Ramen, Sushi, Pizza หรือถ้าจะเอากว้างๆก็ใส่ว่า Japanese food ไปเลยก็ได้ครับ
  2. บริเวณหรือสถานที่ต้องการ ช่องนี้ผมจะใช้วิธี กรอกชื่อสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้ที่สุดลงไปครับ เช่น Shinjuku
  3. เมื่อกรอกช่อง 2 ยังไม่ทันเสร็จดีมันจะมีรายการให้เลือกเลยครับ ผมจะเลือก Shinjuku station ไว้ก่อน
  4. กด search เพื่อค้นหา

หลังจากนั้นจะเห็น List ร้านอาหารบริเวณนั้น อยากให้สังเกตว่าคะแนน แต่ละร้านจะน่าเชื่อถือแค่ไหนให้ดูจำนวนรีวิวด้วยนะครับ ถ้าจำนวนหลายสิบคนก็ถือว่าน่าเชื่อถือแล้วล่ะ แต่ถ้ามาแบบ 1-2 คนนี่แสดงว่ายังไม่แน่นอน อย่างร้านในภาพ Tanaka Shouten Diver City ที่มี 2 ดาว ผมเคยกินมาแล้วผมว่าก็พอใช้ได้อยู่น่าจะได้มากกว่า 2 ดาวนะ บางทีความเห็นอาจจะไม่ตรงกันได้ เดี๋ยวผมจะเทียบให้ดูอีกทีตอนท้ายๆว่า Tabelog กับ Yelp มีความเห็นต่างกันยังไง และส่วนตัวผมมีความเห็นแบบไหน

วิธีใช้ Yelp ต่อ

นอกจากจะแสดงผลแบบ รายการแล้วแน่นอนว่ามันก็สามารถแสดงผลแบบแผนที่ได้ด้วย (A) โดยเวลาเลื่อนแผนที่ไปเราก็สามารถกด อัพเดทการค้นหาได้ที่ปุ่ม (B) และด้านซ้ายบนก็ยังมี Filter เอาไว้กำหนดเงื่อนไขการค้นหา เมื่อกดเข้าไปดูในแต่ละร้านก็จะมีรายละเอียดต่างๆ รวมถึงสามารถอ่านคอมเม้นต์ของคนอื่นๆได้ด้วยครับ

เท่าที่ใช้งานมา บางครั้งนะครับ Tabelog กับ Yelp จะมีความคิดเห็นแตกต่างกันบ้าง นั่นก็คือความแตกต่างในวัฒนธรรมการกิน ของแต่ละประเทศสำหรับผมนะผมจะเอียงๆไปทางเชื่อ Tabelog มากกว่า เพราะถือว่านี่คือแพลตฟอร์มของเจ้าถิ่นเลย Tabelog ช่วยให้เราเข้าใจคนท้องถิ่น เข้าใจความแตกต่างของความชอบ หลายๆครั้งผมเลือกกินอาหารฝรั่งในญี่ปุ่น เพราะผมอยากรู้ว่า อาหารฝรั่งที่บ้านเราก็มีเหมือนกัน คนญี่ปุ่นเค้าชอบกินกันแบบไหน การได้รับรู้ถึงความแตกต่างนี้แหล่ะคือเสน่ห์ของการได้ไปเที่ยวต่างประเทศ

เปรียบเทียบความเห็นจากเว็บทั้งสอง

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นอีกนิดผมจึงเลือกรายชื่อร้านจำนวนนึงที่ผมเคยกินมา แสดงความเห็นประกอบกับ คะแนนจากเว็บทั้งสองด้วยครับ

Tsukiji Shuutoku Honten

Tsukiji Shuutoku Honten เป็นร้านซูชิสไตล์ Edomae เสริฟแบบ Omakase อยู่ในตลาดด้านนอกของตลาดปลาซึกิจิ จะเห็นว่าคะแนนทั้งสองฝั่งนั้นก็ไปในทางเดียวกัน คนญี่ปุ่นเองก็มองว่าร้านนี้ถือเป็นร้านที่มีคุณภาพค่อนข้างดี(เกิน 3.50) ส่วนชาวต่างชาติที่เคยมาชิมให้ไว้ 4.5 ดาว จัดอยู่ในระดับว้าวเลยทีเดียว

ส่วนตัวผมมีความเห็นว่า คุณภาพอาหารเป็นไปตามมาตราฐานอันสูงลิบของตลาดปลาซึกิจิอยู่แล้ว ในเรื่องรสชาติของแต่ละคำ ก็อาจจะมีบางคำที่ยังรู้สึกไม่สุดไม่ฟินสุดๆ แต่สิ่งที่ประทับใจคือตัวเชฟที่ค่อนข้างเป็นกันเองแถมพูดอธิบายเป็นภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี ประกอบกับการได้นั่งมองทักษะความชำนาญในการทำซูชิแต่ละคำ ก็สร้างความประทับใจได้มากเลยทีเดียว ฉะนั้นส่วนตัวผมให้

4 คะแนน

Nakiryu

ในโตเกียวนั้นมีร้านราเมนที่ได้มิชลิน 1  ดาว เพียงแค่สองร้านเท่านั้นและ Nakiryu คือหนึ่งในนั้น ในทุกๆเช้าคุณจะต้องต่อแถวไม่น้อยกว่า 45 นาทีแม้ว่าคุณจะเป็นคิวแรกของร้านก็ตาม เป็นอีกร้านที่ ชาวญี่ปุ่นกับชาวต่างชาติเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นร้านคุณภาพเยี่ยม เมนูเด่นของ Nakiryu คือ Tantan men หรือราเมนที่ใส่หมูสับรสเผ็ด น้ำซุปสีเหลืองดูทรงพลังอย่างมาก ถ่ายรูปสวยเป็นที่สุด อีกเมนูที่เด่นคือ โชหยุราเมน ที่น่าจะคุ้นเคยในเมืองไทยดี จากที่ได้ลองชิมทั้งสองเมนู ผมพบว่า ทันตัมเมน ทำให้ผมประหลาดใจเล็กๆ เพราะเป็นรสชาติที่ไม่คุ้นปากเท่าไหร่ ออกหวานอ่อนๆผมเดาว่าคนที่ติดรสอาหารไทยน่าจะชอบราเมนร้านนี้ แต่ส่วนตัวผมแล้วผมไม่ถึงกับชอบแม้ว่ามันจะดูสวยมากก็เถอะ  ส่วนอีกเมนูคือ โชหยุราเมนผมกลับรู้สึกชอบเมนูนี้มาก แม้ว่าส่วนตัวจะรู้สึกว่ามันเค็มไปนิดหน่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่าน้ำซุปปลาโอและโชหยุนั้นหอมมาก เส้นที่ลวกได้พอดีไม่แข็งไม่อ่อนเกินไป หมูชาชูที่นี่มีเนื้อสัมผัสหรือTexture แตกต่างจากที่อื่นชัดเจน คือนุ่มแต่ไม่นิ่มละลาย ไข่ยางมะตูมทำได้สมบูรณ์แบบมาก ทุกเมนูที่ทำดูตั้งใจและทำได้สมบูรณ์แบบตามที่เชฟต้องการ ส่วนตัวผมจึงให้ Nakiryu ที่

4 คะแนน

**ตามอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่นะครับ [รีวิว]พาไปชิม NAKIRYU ราเมนระดับมิชลิน และบทสรุปที่คาดไม่ถึง

Ichiran

มาถึงร้านยอดฮิตของแฟนคลับชาวไทยแล้ว ราเมนข้อสอบ หรือ อิชิรัน เป็นร้านที่คนญี่ปุ่นเห็นต่างกับชาวต่างชาติมากๆ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ให้คะแนนไว้ที่ระดับ กลางๆ คือเหมือนร้านอาหารจานด่วนชื่อดังทั่วๆไปของญี่ปุ่น อาจจะเป็นเพราะว่ามันมีสาขาเยอะในญี่ปุ่น เค้าก็เลยเฉยๆกันประกอบกับ Ichiran เป็นร้านราเมนที่ขยายสาขาออกต่างประเทศค่อนข้างน้อย เนื่องจากมีเงื่อนไขการทำธุรกิจที่เข้มข้น(เหมือนน้ำซุปราเมนของทางร้าน อิอิ) ทำให้นักลงทุนหลายๆรายในไทยถอดใจ ล่าสุดมีข่าวว่าทางญี่ปุ่นจะเข้ามาทำตลาดเองที่เมืองไทย หลังมีกระแสดราม่าว่ามีร้านก๊อปปี้เหมือนเด๊ะอยู่ในไทยด้วย นอกเรื่องออกทะเลไปเยอะกลับมาที่คุณภาพอาหาร Ichiran เป็นราเมนที่ผมค่อนข้างชอบนะ ซุปเข้มข้นกำลังดี มี option ให้ปรับระดับได้หลากหลาย น่าเสียดายนิดเดียวที่ใช้ไข่ต้มยางมะตูมสีขาวๆธรรมดา แต่คนไทยโดยเฉพาะกรุงเทพนี่ติดรสหวานนำ เวลาไปกินราเมนที่ญี่ปุ่นทีร้องเค็มกันหมด อันนี้เรื่องปกติครับ ที่จริงมันก็เค็มน่ะแหล่ะแต่อร่อยอยู่ดีนะ 555

4.3 คะแนน

ส่วนตัวหลังจากที่ผมใช้ Tabelog และ Yelp มาช่วงหลังๆก็ไม่ค่อยได้อ่านรีวิวหรือทำการบ้านล่วงหน้าอีกเลยครับ เพราะส่วนใหญ่เวลาเที่ยวช่วงหลังๆผมจะแพลนหลวมๆแล้วปรับเปลี่ยนหน้างาน เนื่องจากญี่ปุ่นในหลายๆสถานที่มักจะมีอะไรดีๆซ่อนอยู่ ซึ่งทำให้เราต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นตลอดเวลา เมื่อแผนเปลี่ยนการหารีวิวล่วงหน้าก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ ผมจึงใช้ Tabelog และ Yelp เป็นผู้ช่วยเสมอๆ ที่จริงก็ยังมีอีกหลายเว็บหลายแอพครับ เช่น Gurunavi ก็มีคนนิยมใช้แต่มันไม่แสดงคะแนนในหน้าค้นหาผมก็เลยไม่ค่อยได้ใช้เพราะจะทำให้เสียเวลาเลือกร้านนานเกินไป สุดท้ายนี้หวังว่าสิ่งที่ได้แชร์ไป จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างนะ อย่างน้อยก็ได้กินของที่ดีที่สุดเท่าที่สถานการณ์จะเอื้ออำนวยน่ะแหล่ะครับ โชคดีทุกท่าน บัย

2018-02-14T19:33:31+07:00February 11th, 2018|Categories: Travel|Tags: , , , , |